Where do you want to travel?
Your journey will lead you to famous domestic and foreign beauty spots.
Your journey will lead you to famous domestic and foreign beauty spots.
“ทริปนี้เราขอหลีกหนีความวุ่นวายไปพักผ่อนกันที่เมืองแห่งออนเซนในช่วงฤดุใบไม้เปลี่ยนสี จะสวยแค่ไหน ตามไปดูพร้อมๆกันค่ะ”
วันนี้เราจองรถไฟรอบ 8:13-10:37 น. เพื่อนั่งรถไฟไป Noboribetsu เมืองแห่งออนเซนกัน
อาหารเช้าของวันนี้ค่ะ ข้าวปั้นอันนี้อร่อยมากค่ะ แนะนำเลย
พอไปถึงที่สถานีก็เจอพี่ยักษ์ตัวใหญ่สัญลักษณ์ของเมืองนี้
ตอนแรกเราตั้งใจไว้ว่าจะนั่งรถบัส แต่รอบรถบัสก็มีน้อยเหลือเกิน แถมลงจากบัสแล้ว ต้องเดินลากกระเป๋าอีก 15 นาทีกว่าจะถึงที่พัก เราก็เลยตัดสินใจนั่งแท็กซี่กัน สนนราคาอยู่ที่ 2,000 เยน พอดี ระหว่างทางตอนนั่งแท๊กซี่อยากจะบอกว่าวิวสองข้างทางมีแต่ต้นไม้เปลี่ยนสี สวยมากเลย อากาศก็ดี สำหรับเราที่นี่คือที่สุดของเกาะฮอกไกโดแล้ว
คืนนี้เราจะพักกันที่โรงแรม Noboribetsu Sekisuitei
พอถึงโรงแรมเราก็เอากระเป๋าไปฝาก เพราะยังไม่ถึงเวลา check in จากนั้น เราก็เริ่มเที่ยวเมืองนี้กันเลย
เริ่มจากเดินออกจากโรงแรม ตรงไปเรื่อยๆ เจอ สามแยกแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอ Jigokudani หรือหุบเขานรกที่เค้าเรียกกัน แล้วก็เดินไปเรื่อยๆเพื่อขึ้นไปดู ทะเลสาบน้ำร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างทางมีแต่ใบไม่เปลี่ยนสีเต็มไปหมด สวยมากจนลืมเหนื่อยเลยค่ะ
เดินมาไม่นานก็ถึงแล้ว หุบเขานรก
ขนาดหญ้ามอสที่ขึ้นที่พื้นยังสวยเลย
ถึงแล้ววทะเลสาบน้ำพุร้อน สวยจนลืมเหนื่อยเลย
หลังจากเดินจนเหนื่อยแล้วเราก็เดินไปที่แหล่งชอปปิ้ง ที่มีแห่งเดียวในเมือง เพื่อจะมาหาอะไรรองท้อง ตลอดทางที่เดินผ่าน มีร้านอาหารอยู่ 2 ร้าน และคนก็เยอะมาก เมนูก็ดูไม่ค่อยมีอะไร เราก็เลยเดินเข้าไปหาของกินในเซเว่น ละก็ได้สิ่งนี้มาเป็นอาหารกลางวัน เห็นอย่างนี้อร่อยพอๆกับราเมนในร้านเลยนะค๊า
พอกินเสร็จก็เกือบบ่ายสองแล้ว ทีแรกก็แพลนว่าอยากไป marine park แต่กลัวว่าเดี๋ยวมืดจะอดไป natural footbath ก็เลยตัดใจไม่ได้ไป marine park แล้วเราก็ค่อยๆเดินไปที่ Natural footbath กัน เดินไปประมาน 20 นาทีก็ถึง ระหว่างทางก็เจอพี่ยักษ์สีฟ้ารออยู่
ทางเดินไป Natural footbath เหมือนเดินเข้าป่า สองข้างทางไม่มีอะไรเลย มีแต่ต้นไม้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปอีก
เดินไปซักพักก็ถึงแล้ว Footbath onsen ที่นี่มีแผ่นฟรอยด์เตรียมไว้ให้รองนั่ง แขวนอยู่หยิบมาใช้ได้ค่ะ ทุกคนที่มาจะเตรียมผ้าขนหนูผืนเล็กๆติดมาด้วยเพื่อให้ในการเช็ดเท้าหลังจากขึ้นมาแล้ว แต่เราไม่ได้แบกมาก็เลยใช้ทิชชูเช็ดแทน ลำธารนี้ไหลมาจากเขา Oyunuma อุณหภูมิน้ำที่แช่อุ่นกำลังดีเลย พอเอาขาจุ่มลงไปแล้วสบายมาก อยากนั่งตรงนี้นานๆจัง
ถึงเวลาเดินกลับโรงแรมแล้ว แต่ระหว่างทางกลับนี่เหมือนหลุดไปอีกโลกนึงเลย
หลังจากขึ้นมาจาแช่เท้าเสร็จ เราก็เดินกลับไปที่ Gokaruku dori ซึ่งเป็นถนนชอปปิ้งหลักของเมืองนี้ เพื่อไปเดินหาซื้อของฝาก ร้านส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของฝาก พวกของ handmade กระจุกกระจิก น่ารักดีค่ะ
พอชอปปิ้งเสร็จแล้ว เราก็เดินกลับมาที่พักเพื่อ check in และเปลี่ยนชุดเป็นยูคาตะ เพื่อไปกินบุฟเฟ่ตอนกลางคืนที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้
พอกินเสร็จก็ไปถึงเวลาออนเซนแล้วค่า พวกเราจองออนเซนแบบ Private เป็นห้องเวลา 50 นาที 3240 yen มีให้เลือก 2 แบบ เป็นแบบ Western style และ Japanese Style มาถึงญี่ปุ่น เราก็ต้องเลือกแบบ Japanese สิเนอะ อยากจะบอกว่าก็จะทำใจนานมากกว่าจะเอาตัวจุ่มลงไปได้ เพราะน้ำร้อนจัดมาก เสียเวลาไปกว่า 20 นาที แต่พอลงไปแล้ว สบายมาก ที่เหนื่อยมาหลายวัน หายเป็นปลิดทิ้ง 555
สำหรับวันนี้ขอจบทริปแต่เพียงเท่านี้ค่า
ไปต่อกันที่ Autumn in Hokkaido (Day 5 in Asahidake) คลิกตามลิงค์เลยค่ะ http://www.vacationisty.com/2016/08/31/hokkaido-asahikawa-asahidake/