Autumn in Hokkaido (Day 1 in Sapporo)

Where do you want to travel?

Your journey will lead you to famous domestic and foreign beauty spots.

Autumn in Hokkaido (Day 1 in Sapporo)

ทริปนี้เริ่มมาจากเราอยากไป Hokkaido มากกๆๆ มานานแล้ว ซึ่งไม่รู้หรอกว่าที่นั่นมีอะไรมั่ง ที่เคยเห็นเค้าไปกันก็มีแต่หิมะ กับดอกไม้ แต่เราไม่ค่อยเห็นคนไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีซักเท่าไหร่ ครั้งนี้เรามีวันลาพอดีในช่วงต้นเดือนตุลา แล้วก็เป็นช่วงที่เกาะฮอกไกโด เป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีพอดี ที่นี่จะสวยแค่ไหน ตามไปดูพร้อมๆกันเลยค่า

Bellie

-ช่วงเวลาที่เดินทาง-

เราเดินทางวันที่ 17-26 ตุลาคม 2558 เป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่กำลังจะเข้าหน้าหนาวแล้วค่ะ

.

– แผนการเดินทาง –

เราจะเดินทางจาก Sapporo-Hakodate-Noboribetsu-Asahikawa-Furano-Biei-Sapporo

– ที่พัก –

Hotel

** หมายเหตุ: ราคาที่ระบุเป็นราคา 2 คนนะคะ

 

– การเตรียมตัวก่อนเดินทาง –

  • เราต้องเดินทางด้วยรถไฟตลอดทริป เราก็เลยซื้อ JR Hokkaido pass ไป แบบ 7 วัน คนละ 24,000 yen (7,400 บาท) เราไปซื้อที่เคาน์เตอร์ H.I.S ที่ Siam Square One จะได้เป็นตั๋วชั่วคราวมาให้ ซึ่งต้องไปออกตั๋วจริงตอนไปถึงค่ะ
  • เราวางแผนกันไว้ว่าจะเช่ารถ 2 วันตอนที่อยู่เมือง Asahikawa และ Biei เพราะช่วงที่เราไปไม่ค่อยมีรอบรถไฟแล้ว กลัวว่าจะเดินทางลำบาก เราจึงตัดสินใจจองรถไป จากเวบ https://www.jrh-rentacar.jp/ ราคาทั้งหมด 15,000 yen
  • นอกจากนั้นเราก็ต้องเช่า pocket wifi ไปด้วย เราจองของ samurai wifi จากเวบ http://www.bs-mobile.jp/th/ ทั้งหมด  8 วัน รวมค่าประกันเครื่องทั้งหมดเป็นเงิน 1,651 บาท
  • สุดท้ายก็ต้องแลกเงินไปด้วย ตอนที่เราไปเรท 0.300 พอดีเด๊ะเลย (ช่วงนั้นเรทดีมากเลย)

.

.

– ออกเดินทางการเลยดีกว่า –

เที่ยวบินของพวกเราคือ 23.45-08.30 น. พอไปถึงสนามบิน New Chitose ก็เกือบจะ 9 โมง เราก็เลยไปเดินเล่นตรง ชั้น 3 ของสนามบิน ซึ่งเหมือนสวนสนุกเลย เพราะที่นี่มี Doraemon Wakuwaku sky park

3

กับ Royce Chocolate world เดินแค่นี้ก็เพลินแล้ว

IMG_9898_800x1200

IMG_9896_1600x1067

แล้วเราก็แวะกินอาหารเช้ากันที่ Doraemon cafe อาหารทำออกมาน่ารักมากๆเลย แถมรสชาติยังอร่อยอีกด้วย

1

2

และเวลาก็ล่วงเลยมาจน 11.30 น. จากเดิมที่แพลนไว้ว่าจะอยู่ที่สนามบินแค่ครึ่งชั่วโมงพอ สรุปว่า สองชั่วโมงจ้า เราก็เริ่มทริปนี้ด้วยประโยคที่ว่า มาเที่ยวแบบ slow life กันนะค๊า

แล้วเราก็เดินมาชั้นใต้ดิน ที่อยู่ของ JR station เพื่อจะไปจองตั๋วรถไฟสำหรับทุกรอบที่เราจะเดินทาง อันนี้สำคัญมากนะคะ ควรจองไว้ก่อน เพราะว่าที่นั่งอาจจะเต็มได้สำหรับบาง route ที่คนเดินทางเยอะๆ

หลังจากจองตั๋วเสร็จ เราก็เริ่มใช้ JR pass กัน โดยนั่งรถไฟเข้าไป Sapporo station ใช้เวลา 40 นาที

พอไปถึง เราก็เดินไปที่ที่พัก เพื่อจะเอากระเป๋าไปฝาก อากาศวันนี้ก็สบายๆ ไม่หนาวอย่างที่คิดไว้ ประมาณ 17 องศา แต่พยากรณ์บอกว่าเย็นนี้ฝนจะตก

หลังจากเอาของไปเก็บที่โรงแรมแล้ว ที่แรกที่เราจะไปกันก็คือ Odori park และ Sapporo TV tower เอาแค่นี้แหละ เพราะบอกแล้วว่าทริปนี้ไม่เร่งรีบ เราก็เดินจากโรงแรมไปขึ้น subway ไปที่สถานี Odori นั่งไปแค่ป้ายเดียวก็ถึงแล้ว

พอลงสถานีเห็นpark เท่านั้นแหละ กรี๊ดเลย เพราะเจอแล้ว ใบไม้เปลี่ยนสี สวยมากเลย แล้วก็เดินไปแวะซื้อข้าวโพดย่าง ฝักละ 300 เยน อร่อยกว่าข้าวโพดที่ไทยจริงๆนะ

dscf3893_2400x1600

อยู่ตรงนี้ไม่ถึงชั่วโมง ฝนก็มาตามพยากรณ์เป๊ะ เราเลยต้องหาที่หลบฝนด้วยการไปหาอะไรร้อนๆทาน

เรานั่ง subway สาย Nanboku Line ไปออกสถานี susukino เพราะจะไปกินราเมนที่ตรอกราเมน บอกทางไม่ถูก ใช้ google map เลยจ้า เดินไปประมาณ 5 นาทีก็ถึง แต่ตอนนี้หนาวมาก เพราะลมก็มา ฝนก็มา ฟ้าก็ครึ้ม บ่ายสอง เหมือนสองทุ่ม

และนี่ ร้านราเมนที่เราอยากมากินมากๆ ตอนที่อ่านจากรีวิว เค้าบอกว่าต้องต่อคิวเพราะคนเยอะมาก แต่พอไปถึงจริงๆ มีคนอยู่ประมาณ 2 โต๊ะ ร้านนี้ชื่อร้าน Aji no karyu หน้าร้านไม่มีภาษาอังกฤษ แต่จุดสังเกตคือร้านนี้เป็นร้านแรกของตอกราเมนเลย เมนูที่เราสั่งก็เป็นเมนูพิเศษของร้าน ราเมนขาปู Price: 1,600 yen ละก็เกี๊ยวซ่า 400 yen กินกันสองคนอิ่มมากเลย

IMG_9928_1600x1067

กินเสร็จ ฝนก็เริ่มหยุดแล้ว แต่ฟ้าก็มืดสนิทแล้ว เราก็เลยไปเดินเล่นที่ย่าน Tanukikoji ย่านชอปปิ้งอันโด่งดังของที่นี่

dscf3945_2400x1600

เดินชอปปิ้งที่ดองกี้ พอสังเขป แล้วก็นั่ง subway กลับโรงแรม เราเอาของไปเก็บที่โรงแรม แล้วก็มาเดิน survey ที่แถว JR Station

ที่ station มีห้างหลายห้างตั้งอยู่ รวมถึง big camera ด้วย อยากได้อะไร มาตรงนี้มีครบหมดเลยค่า เราแวะไปซื้อแบตกล้องที่ big camera เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นที่ Loft บนห้าง ESTA ห้างที่นี่ปิด 3 ทุ่มนะคะ พอห้างปิด เราก็หิวอีกรอบ ก็เลยขึ้นไปชั้น 10 ของ ESTA ชั้นนี้มี Ramen Replublic ซึ่งรวมร้านเจ๋งๆของราเมนไว้ตรงนี้ แต่พวกเราไม่ได้กิน เพราะอยากกินข้าวหมูทอดมากกว่า ก็เลยมองหาร้านที่คนเยอะๆ ก็เข้าไปเลย ร้านนี้ชื่อร้าน Tonkatsu Tamafuji

dscf3970_2400x1600

รอคิวประมาณ 20 นาที กว่าจะได้กิน ละเราก็สั่งเซทเดียวแบ่งกันอีกแล้วค่า เครื่องเคียงอร่อยทุกอย่างเลย

dscf3977_2400x1600

dscf3978_2400x1600

หน้าตาอาจจะดูเหมือนหมูทอดธรรมดา แต่ว่ามันอร่อยมากกกกกกก ก ไก่ล้านตัว อร่อยกว่าซาโบเตน maisen อีก คือดีอ่า ให้คะแนน 10/10 เลย หลังจากอิ่มแล้ว เราก็กลับเข้าที่พัก เพื่อเตรียมจัดกระเป๋า ไป Hakodate ค่า

ตามไปอ่านกันต่อที่ Autumn in Hokkaido (Day 2-3 in Hakodate) ตามลิงค์นี้เลยค่า http://www.vacationisty.com/2016/09/05/hokkaido-hakodate/

bellie

Thipsumon Kirkkraisuksom

Work hard.. Travel harder :)

2 Comments

  • Chasity

    This website is really cool. I have bookmarked it.
    Do you allow guest posting on your blog ? I can write high quality articles for you.
    Let me know.

    October 15, 2016 at 5:43 pm
    • nuttaponp
      Nuttapon Pichetpongsa

      Hi Chasity,

      Thank you very much. We really appreciate it. Unfortunately, we don’t allow guest posting on our Blog for now. We have a plan to allow guest posting in the future – we will let you know again when the right time comes.

      Best regards,
      Nuttapon P.

      October 20, 2016 at 1:24 pm

LEAVE A COMMENT