Where do you want to travel?
Your journey will lead you to famous domestic and foreign beauty spots.
Your journey will lead you to famous domestic and foreign beauty spots.
เช้ามาเราก็มุ่งหน้าไปเที่ยวที่ Queenstown กัน ระหว่างเมือง Wanaka กับเมือง queenstown เราจะต้องขับรถผ่านเส้น Crown range road เป็นถนนเส้นที่โหดเอาเรื่องมาก ทุกคนในรถเมารถสุดๆ เพราะถนนเป็นแบบในรูปเลย ต้องขับไม่เกิน 25 km ต่อชั่วโมง แต่วิวก็สวยมากเช่นกัน
แวะถ่ายรูปที่จุดชมวิวซักหน่อย โชคดีเจอรุ้งกินน้ำด้วย
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้วเมือง Queenstown ตื่นเต้นมากเลย กว่าจะได้เข้าเมืองซักที 555
ที่แรกที่ต้องแวะก็คือ Fergburger เบอร์เกอร์สุดฮิตของที่นี่ คิวยาวแค่ไหนถามใจเธอดู
และก็ได้มาแล้ว อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ชิ้นใหญ่มาก เรากินคนเดียวไม่หมด ต้องแบ่งกันกิน
หลังจากกินอิ่มเราก็ไปเดินเล่นในเมืองกัน แวะซื้อของฝากซักหน่อย นานๆจะได้เข้าเมือง ร้านนี้ขายคุ้กกี้ ตกแต่งร้านได้น่ารักมาก
ชอปปิ้งเสร็จก็ไปเดินเล่นต่อที่ทะเลสาบวาคาติปู (Lake Wakatipu) ทะเลสาปที่นี่สวยทุกที่เลย น้ำใสมากๆ
หลังจากเดินเล่นในเมืองเสร็จ ฝนก็เริ่มลงเม็ด เราก็เลยมุ่งหน้ากันต่อเพื่อจะไปพักที่ Fox Glacier หนทางคืนนี้ยาวนานมากๆ ระหว่างทางก็เกินเหตุระทึก เพราะน้ำมันกำลังจะหมด ขึ้นไฟเตือนแล้ว แต่ระหว่างทางมืดสนิท ไม่มีปั้มน้ำมันเลย พอเราเจอปั้ม ก็รีบจอดเพื่อจะเติม แต่ปรากฏว่าปั้มปิดแล้ว เราก็เลยต้องขับต่อไป โชคดีว่ามีเมืองเล็กๆอยู่ใกล้ๆ ซึ่งมีปั้มน้ำมันแบบสามารถเติมเองได้อยู่ รอดไป สำหรับคืนนี้เราพักกันที่ Fox Glacier Top10 Holiday Park ที่นี่ใกล้กับ Fox Glacier มาก สะดวกสุดๆ มาลุ้นกันว่าพรุ่งนี้เราจะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปดู Glacier กันมั้ย
วันนี้เราตื่นเต้นกันมาก เพราะว่าเราจะไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปดู Glacier กัน แต่การขึ้นเฮลิคอปเตอร์นั้นต้องดูสภาพอากาศด้วย ถ้าวันไหนอากาศไม่ดี เค้าจะไม่ให้บินเด็ดขาด เราก็ต้องลุ้นทุกๆ 10 นาที จนในที่สุดเค้าก็บอกว่าไปได้ พนักงานก็พาพวกเราก็ไปเปลี่ยนชุด และแนะนำอุปกรณ์ต่างๆ และวิธีการเดินบนน้ำแข็ง หลังจากนั้นก็เตรียมตัวจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ซักพัก ก็มีโทรศัพท์มาหาไกด์ ว่าสภาพอากาศด้านบนไม่ดี จึงขอยกเลิกไฟล์ท ถามว่าเซงมั้ย ตอบเลยว่า มาก 🙁
ตอนนั้นทุกคนนอยด์กันมาก เพราะตั้งใจขับรถมาไกลถึงที่นี่เพื่อมาขึ้นไปดู Glacier บนยอดเขา เราก็เลยต้องไปเดินดู Glacier กันแทน แต่พอมาถึง ความนอยด์ก๋หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อเจอกับวิวที่อยู่ตรงหน้า
น้ำที่ลำธาร เย็นมากๆ เพราะมาจากน้ำแข็งที่ละลาย
ธารน้ำแข็งหรือ Glacier ที่เห็นนี้ เมื่อก่อนมีเยอะกว่านี้มาก แต่ละลายหายไปเกือบหมดแล้ว
หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อไปที่ Lake Matheson เพื่อ สถานที่เที่ยวที่นี่ไม่มีที่ไหนที่สามารถขับรถจอดแล้วจะถึงเลย การจะได้เจอสิ่งที่สวยงามมักจะแลกมากับความยากลำบาก
เดินเข้าป่าไปซักพัก ก็จะเจอจุดชมทะเลสาบจุดแรก เรียกว่า Jetty Viewpoint น้ำนิ่งมากเลย แต่วันนี้ฟ้าไม่เป็นใจ เมฆเลยบัง Mt.Cook หมดเลย
จากนั้นก็เดินต่อมาเรื่อยๆจนถึงจุดชมวิวที่พีคสุด เรียกจุดนี้ว่า Reflection Island
หลังจากนั้น ก็ถึงเวลาเดินทางต่อแล้วค่ะ จุดหมายต่อไปก็คือ Hokitika ใช้เวลาประมาณเกือบ 3 ชั่วโมงระยะทาง 160 กิโลเมตร กว่าเราจะถึงเมือง Hokitika ก็ดึกพอดี เราก็เลยหาที่พักใน app campermate ค่ะ แล้วเราก็ได้ที่พักกันที่ Hokitika beachside ความจริงที่นี่ ใกล้กับชายหาด Hokitika มากเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยไปเที่ยวกันต่อ
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่เกาะใต้ เช้านี้เราวางแผนกันว่าจะไปเที่ยวรอบๆเมือง Hokitika ก่อนจะไปสนามบิน Christchurch เพื่อไปคืนรถบ้าน และบินกลับไปที่ Auckland เราแวะไปที่ Hokitika i-Site Visiter Center เพื่อสอบถามเส้นทางกัน ก่อนจะเริ่มเที่ยวรอบๆเมือง
หอนาฬิกาเมือง Hokitika ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยค่ะ
เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องหยกมากค่ะ มีร้านขายหยกเต็มไปหมด
เดินต่อไปไม่ไกลก็ถึงชายหาดแล้ว
ชายหาดไม่มีคนเลย คลื่นแรงมาก แต่วิวสวยดีค่ะ
หลังจากเดินเล่นในตัวเมืองเสร็จ เราก็เดินทางออกจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโล เพื่อไปที่ Hokitika Gorge จุดเด่นของที่นี่ก็คือแม่น้ำที่เป็นสีเทอร์ควอยซ์นี่แหละค่ะ
ไปที่ไหนก็เจอสะพานแขวน
หลังจากนั้นเราก็ต้องมุ่งหน้ากลับไปที่สนามบิน Christchurch เพื่อคืนรถ ออฟฟิตของบริษัทรถอยู่ใกล้ๆสนามบิน หลังจากคืนรถแล้วทางบริษัทรถก็จะมีบริการ shuttle bus ไปส่งที่สนามบินค่ะ
ถึงเวลาต้องโบกมืออำลาเกาะใต้แล้ว จุดหมายต่อไปของเรา เราจะไปตะลุยเกาะเหนือกันต่อค่ะ
พอถึงเมือง Auckland เราก็ใช้บริการ Shuttle bus ของสนามบินเพื่อเข้าเมืองกันค่ะ จะเป็นรถตู้จอดอยู่หน้า Terminal เลย แค่บอกโรงแรม แล้วเค้าก็จะไปส่งถึงที่ ราคาคนละ NZ $15 คืนนี้เราได้พักโรงแรมซักทีหลังจากนอนรถบ้านมานาน ไม่ค่อยคุ้นเลย 55 ที่พักที่นี่ชื่อ Waldorf Stadium Apartments Hotel ที่นี่กว้างมาก มีห้องนั่งเล่นและห้องครัวให้ด้วย แถมยังอยู่ใกล้กับ Supermarket อีก สะดวกสบายสุดๆ ราคาก็ไม่แพงด้วยตกคนละพันกว่าบาทต่อคืนค่ะ พวกเราพักกันที่นี่ 2 คืนก่อนจะบินกลับประเทศไทยค่ะ
วันนี้เรานัดทัวร์มารับเราที่ที่พัก ตอน 6.45 น. เพื่อไปรวมกันที่จุดนัดพบ แล้วก็ออกจากเมืองตอน 7.00 น. วันนี้ทัวร์จะพาเราไป Hobbiton Movie Set, Ruakuri (Glowworm Cave) และ Kiwi House รวม ของว่างและ อาหารกลางวันที่หมู่บ้านฮอบบิทค่ะ
เราจองเป็น One day tour ของบริษัท Gray Line ราคาคนละ $279
http://www.graylinetours.co.nz/tours/waitomo-and-hobbiton/hobbiton-waitomo-caves-day-tour/
ขึ้นรถปุ๊บ เราก็หลับยาวๆ ตื่นอีกทีก็ถึงเมือง matamata ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง The Lord of the ring พอถึงที่ฟาร์ม ก็มีไกด์ของที่ Hobbiton Movie Set ขึ้นมาบนรถเพื่อแนะนำและเป็นไกด์พากรุ๊ปเราเข้าไปข้างใน ที่นี่เค้าไม่ปล่อยให้เดินเองนะคะ ทุกคนต้องเดินไปพร้อมๆกัน
ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านฮอบบิทค่า
บ้านส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าไปได้นะคะ ทำเป็นฉากในหนังเฉยๆ น่ารักมากมาย
เค้าทำทุกอย่างได้สมจริงมากเลยค่ะ
ถึงแล้ว บ้านของบิลโบ แต่เค้าไม่อนุญาติให้เขาไปถ่ายด้านในนะคะ
ต้นโอ๊คที่อยู่บนหลังคาบ้านของบิลโบค่ะ อลังการมาก
พอเดินออกจากหมู่บ้าน เค้าจะมีให้ชิม Ginger Beer ด้วย และเราก็ทานอาหารกลางวันที่นี่เลยค่ะ หลังจากทานอาหารเสร็จก็ถึงเวลาอำลาหมู่บ้านฮอบบิทแล้ว
สถานที่ต่อไป เราจะนั่งรถต่อไปที่ Ruakuri (Glowworm Cave) เพื่อไปดูหนอนเรืองแสงกัน ตอนแรกก่อนเข้า เราก็คิดว่าน่าจะเหมือนหิ่งห้อยบ้านเรา ไม่น่ามีอะไรน่าตื่นเต้น
พอไปถึงเค้าก็จะมีไกด์พาเราเข้าไปในถ้ำ ซึ่งถ้ำนี้ก็จะมีหินงอกหินย้อยเต็มไปหมด สวยงามมาก หลังจากนั้นก็จะเดินไปจุดที่เห็นหนอนเรืองแสง มันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก มันไม่ใช่หิ่งห้อย แล้วมันก็เรืองแสงได้จริงๆ
หลังจากนั้น ทัวร์ก็พาเราไปดูนกกีวี่กัน แต่ว่าเค้าไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปค่ะ
ทัวร์ของวันนี้ก็จบลงเท่านี้ จากนั้นเค้าก็มาส่งเราที่ที่พัก คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่นิวซีแลนด์แล้ว เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ
เราขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ ทริปนี้เราขอบอกว่าเราประทับใจมากจริงๆ ก่อนที่จะมาก็กังวลว่าจะอยู่รถบ้านจะลำบากมั้ย แต่พอมาได้ใช้ชีวิตบนรถบ้านจริงๆแล้วสนุกมากเลย ไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด และการมานิวซีแลนด์ครั้งนี้ทำให้เราได้รู้ว่าบนโลกใบนี้ยังมีสถานที่สวยๆที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาอีกมากมาย ถ้าเพื่อนๆได้มีโอกาสมาที่นี่เราเชื่อว่าทุกคนต้องรักประเทศนี้เหมือนเราค่ะ
เราหวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนไม่มากก็น้อยนะคะ ถ้าใครที่ยังคิดไม่ออกว่าทริปต่อไปจะไปที่ไหนดี ลองเก็บนิวซีแลนด์ไว้เป็นอีกตัวเลือกนึงนะคะ
—
โปรดติดตาม ท่องเที่ยว New Zealand ตอนที่ 1 ได้ที่นี่นะค่ะ นิวซีแลนด์ ดินแดนต้องห้าม…พลาด (Part I)
—